เวลาหมุนเปลี่ยนเวียนไปอย่างรวดเร็วเสมอ อีกเพียงไม่กี่เดือน ปีพ.ศ.2564 จะเข้ามาแทนที่ปีเก่า ปีที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงแบบที่ยากจะลืมเลือน แต่เมื่อชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป การปรับและเปลี่ยนจึงเป็นเครื่องมือที่จะนำทางไปสู่เส้นทางของผู้รอดชีวิต โดยปกติช่วงปลายปีแบบนี้หลายคนเริ่มวางแผนทางการเงิน โดยเฉพาะการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนและสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ แต่จากสถานการณ์ที่ผ่านมา การบริหารรายรับให้สมดุลกับรายจ่ายยังเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆ คน บทความนี้จึงขอชวนชาว CSL มาสำรวจ portfolio ด้านทรัพย์สิน เพื่อนำไปวางแผนด้านการเงินฉบับสำรอง หากโควิด-19 กลับมาแผลงฤทธิ์ระลอก 2

สำรวจเงินฝาก-สลาก การมีเงินฝากช่วยให้อุ่นใจควรมีเงินสำรองให้ครอบคลุมค่าใช้จ่าย fix cost ต่างๆ ได้อย่างน้อย 6 เดือน โดยแบ่งสันปันส่วนจากรายได้ประมาณ 20% มาสะสม แล้วใช้จ่ายเฉพาะในสิ่งจำเป็นเท่านั้น จนกว่าสถานการณ์ทางการเงินจะดีขึ้น หรือสถานะด้านการงานจะกลับมาเป็นปกติ สำหรับผู้ที่มีสลากหรือกองทุน ควรจัดระเบียบและบันทึกลำดับการครบกำหนดให้ชัดเจน สำหรับนำมาใช้สร้างสภาพคล่องยามจำเป็น เช่น กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน เป็นต้น

         สำรวจวิธีการจับจ่ายที่ช่วยสร้างทรัพย์สินดิจิทัล ปัจจุบันเรานิยมใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินออนไลน์ค่ายต่างๆ รวมไปถึงบัตรเครดิต ซึ่งมักจะได้รับคะแนนหรือ point เมื่อสะสมได้จำนวนหนึ่งจะสามารถใช้แทนเงินสดสำหรับจับจ่ายใช้สอยได้อีกต่อหนึ่ง ดังนั้น การติดตามโปรโมชั่นการสะสมคะแนนของกระเป๋าเงินออนไลน์ ก็ช่วยสร้างทรัพย์สินดิจิทัลให้เพิ่มพูนขึ้นได้ และสามารถนำออกมาใช้ในยามจำเป็นได้ไม่ต่างจากเงินสด

         สำรวจทรัพย์สินทางปัญญา หลังจากที่โควิด-19 ได้ทำให้หลายๆ คนต้องประสบกับสถานะการงานที่ไม่มั่นคงอีกต่อไป การมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริมเพื่อให้เกิดกระเป๋าเงินที่ 2 จึงมีความจำเป็น ปัจจุบันการขายสินค้าออนไลน์ถือเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ มีแม่ค้าออนไลน์หน้าใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่หากต้องการจะเป็นแม่ค้าหน้าใหม่มาแรง การขายสินค้าที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นกว่าสินค้าที่มีอยู่ในท้องตลาดทั่วไป ก็จะสร้างข้อได้เปรียบเป็นอย่างมาก เช่น เสื้อผ้าที่ออกแบบเฉพาะ อาหารสูตรเด็ดตำรับคุณย่า หรืองาน handmade ที่มีชิ้นเดียวในโลก สินค้าประเภทที่กล่าวมานี้คือทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดจากศักยภาพภายใน ซึ่งหากสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ จากอาชีพเสริมอาจกลายเป็นธุรกิจใหม่ที่สร้างรายได้มากกว่าเงินเดือนพนักงานก็เป็นได้

         จะเห็นได้ว่าบทความนี้มุ่งสนับสนุนให้ชาว CSL ได้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วเป็นหลัก เพราะการใช้วิธีกู้ยืมเพื่อนำใช้ดำรงชีวิตนั้น อาจไม่ใช่วิธีที่ดีนัก เพราะสุดท้ายก็จะกลายเป็นภาระที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มที่จะดำดิ่งอย่างไม่มีกำหนดฟื้น การงดสร้างหนี้น่าจะช่วยทำให้การดำเนินชีวิตมีแต่ความเบาสบาย ไม่ต้องกังวลถึงภาระที่จะเกิดขึ้นในอนาคต